สติ๊กเกอร์สูญญากาศติดกระจก ติดง่าย ไม่ง้อช่าง ร้านสวยและมีความเป็นส่วนตัว
สติ๊กเกอร์สูญญากาศติดกระจก เชื่อว่าหลายคนก็คงสับสนระหว่างสติกเกอร์ชนิดสูญญากาศกับแผ่นสูญญากาศ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ? เพราะ เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ต้องการจะสั่งสติกเกอร์หรือแผ่นสูญญากาศ ผู้สั่งสามารถสื่อสารกับร้านผลิตสติกเกอร์ได้ เพราะฉะน้้น ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสติกเกอร์รวมถึงแผ่นสูญญากาศถึงเป็นเรื่องจำเป็น ทำให้รู้ว่า ทั้งสติกเกอร์และแผ่นสูญญากาศ ใช้งานแล้ว ได้ประโยชน์ในเรื่องไหนบ้าง ? ก็จะเป็นสาระสำคัญของบทความที่แอดมินภูมิใจนำเสนอ
ประโยชน์ของ สติ๊กเกอร์ติดกระจกสูญญากาศ
สติกเกอร์ชนิดนี้ ผลิตมาจากพลาสติกที่ชื่อว่าโพลีไวนิลคลอไรด์ อีกทั้ง ยังเป็นสติกเกอร์ใส ดังนั้น คุณสมบัติของสติกเกอร์ ค่อนข้างใกล้เคียงสติกเกอร์ PVC แต่แม้จะมีความใกล้เคียงกัน ทว่า สติกเกอร์สูญญากาศ ก็มีความโดดเด่นในตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ ความเป็นสติกเกอร์ไร้กาว ซึ่งแอดมินกำลังจะกล่าวถึงในไม่ช้า
ความที่สติกเกอร์สูญญากาศ เป็นสติกเกอร์ที่ใช้แรงดูดสูญญากาศ ทำให้ในเวลาต่อมา ได้ปรับและพัฒนาสติกเกอร์สูญญากาศให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นไปอีก โดยข้อดีและประโยชน์ของสติกเกอร์ มีดังนี้
- แกะออกง่าย ใครที่ต้องการจะเปลี่ยนสติกเกอร์บ่อย ๆ หรือเพียงแค่ย้ายตำแหน่งติด สติ๊กเกอร์สูญญากาศไม่มีขั้นต่ำ พบว่า การแกะสติกเกอร์ นั้นแสนจะง่ายดาย โดยไม่ต้องมาพะวงเรื่องคราบกาว ทั้งนี้เพราะ สติกเกอร์ชนิดนี้ ใช้แรงดูดแบบ vacum เมื่อไหร่ก็ตามต้องการแกะสติกเกอร์ สามารถดำเนินการแกะสติกเกอร์ได้เลย รวมถึง จะติดซ้ำอีกกี่รอบก็ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดสติกเกอร์มาก่อน ทำให้ ไม่ต้องจ้างช่างติดสติกเกอร์ ก็สามารถติดสติกเกอร์เองได้แล้ว
- สามารถพิมพ์ 2 หน้าได้ ถือได้ว่าเป็นข้อดีของสติกเกอร์ชนิดนี้เลยก็ว่าได้ ก็ยิ่งช่วยทำให้ ใช้ประโยชน์จากสติกเกอร์เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สติ๊กเกอร์ติดกระจกสุญญากาศ ตามสถานประกอบการต่าง ๆ สติกเกอร์กระจกรถยนต์ รวมถึง ทำเป็นบัตรผ่านเข้าออกโครงการ เพื่อนำมาใช้ยืนยันตัวตนว่า เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ภายในโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการอาคารชุด โครงการคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร อีกทั้งยังนำมาคัดกรองผู้ที่ผ่านเข้าออกโครงการต่าง ๆ ทำให้รู้ว่า ใช่ผู้ที่อาศัยภายในโครงการหรือ เป็นเพียงผู้แวะมาทำธุระ เป็นต้น
- ติดกระจกรถ ก็ควรต้องติดสติกเกอร์ โดยเฉพาะ การสั่งสติกเกอร์สูญญากาศมาปิดทับป้าย พรบ เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ เพราะผู้ที่เสียประโยชน์ ก็คือเจ้าของรถ
